เนื่องจากในวัยหนุ่มข้าพเจ้าเป็นคนที่ชอบตระเวนเขียนภาพทิวทัศน์และชีวิตผู้คนที่มีความเป็นอยู่ตามธรรมชาติมาก่อน หลายสิบปีที่ผ่านมา จากสภาพของคนต่างถิ่นที่แร้นแค้นสิ้นหวัง ทำให้ต้องพเนจรไปใช้ชีวิตห่างไกลจากภาคกลางที่เป็นถิ่นกำเนิดไปอยู่ถึงภาคเหนือตอนบนที่เชียงใหม่ เหมือนเกิดใหม่ เพราะที่นั่นข้าพเจ้าได้เริ่มต้นชีวิตอีกครั้งหนึ่งท่ามกลางความสงบ ข้าพเจ้ามีความสุขที่ได้เขียนรูป อยู่กับสิ่งแวดล้อมที่สวยงาม ซึ่งเร้าใจให้เขียนได้ทุกหนแห่งมากมายเสียจนเขียนไม่ทันกับใจที่ต้องการ และข้าพเจ้าได้พบตัวตนอย่างชัดเจนที่นั่นในปัจจุบันถึงแม้ภาคเหนือตอนบน สภาพภูมิศาสตร์จะเปลี่ยนแปลงไปบ้าง คือความหนาวเย็นหดสั้นลง อาจจะเป็นเพราะลักษณะของธรรมชาติ หรือการกระทำของมนุษย์ก็ตาม ซึ่งทำให้เกิดความหลากหลายของธรรมชาติ แผ่นดินบนที่ราบร้อนขึ้น มีแสงแดดสดใสแพรวพราวไปด้วยไม้ดอกในเขตร้อน และอบอุ่น ที่ส่องประกายดุจสีสันของอัญมณี ตามห้วยหนองลำธารมีแต่ความร่มเย็นใสสะอาด ประดับด้วยราชนีแห่งพืชน้ำ ทั้งบัวหลวง บัวสายที่รายล้อมด้วยบริวารใหญ่น้อย กอกก ผักบุ้ง และจอกแหน ในช่วงฤดูเก็บเกี่ยว ที่นาที่นั่นประดุจผืนพรมที่ถักทอด้วยเส้นใยทองคำขนาดมหึมา กว้างไกลพลิ้วเป็นระลอกไปตามแรงลม ส่องประกายสีทองที่มั่งคั่งอุดมสมบูรณ์ คละคลุ้งท่ามกลางหุบเขาและปุยเมฆขาวสะอาดที่ลอยล่องบนท้องฟ้าสีครามสดใสจากพื้นที่ลุ่มเต็มไปด้วยสีเหลืองอมน้ำตาลค่อยๆระเรื่อยขึ้นไปตามไหล่เขา สีของต้นไม้จะค่อยๆเปลี่ยนเป็นเขียวชอุ่ม ฟูนุ่ม และเข้มข้นขึ้นถึงปลายดอยสูงลิบลิ่ว ทิวไม้ใหญ่กลายเป็นสีเขียวมรกต และอมเทา เมื่อสัมผัสกับไอหมอก แผ่นดินบนพื้นที่สูงมีแต่ความหนาวเย็นตลอดปี ที่นั่นเต็มไปด้วยชีวิตชีวาของไม้ดอกประจำถิ่น และไม้ดอกต่างถิ่นจากเมืองหนาวแดนไกล บานไสวส่งประกายสีที่สดใสแข่งขันกันไปทั่วทั้งหุบเขาเพราะความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติดังกล่าวผู้คนชนบทที่นั่นทุกพื้นที่ยังคงรักษาวัฒนธรรมในการดำรงชีวิตที่สอดคล้องไปด้วยกันกับธรรมชาติอย่างมีความสุขทุกฤดูกาลนี่เป็นเพียงส่วนน้อยนิดจากถิ่นเหนือตอนบนที่ข้าพเจ้าได้กลั่นกลองจากสิ่งที่เห็น และนำมาเสนอในรูปแบบที่ค่อนข้างจะตรงไปตรงมา เพราะถือว่าสิ่งที่มีคุณค่ามากที่สุดคือสิ่งที่เป็นไปตามธรรมชาติเท่านั้น